วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

อีกไม่กี่วันเจอกันที่...อุทยานแห่งชาติสาละวิน(คัดจากเวบสำนักอุทยานแห่งชาติ)

 อุทยานแห่งชาติสาละวิน มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอสบเมย อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงสลับกับที่ราบริมฝั่งน้ำซึ่งปกคลุมไปด้วยป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง และมีสภาพป่าไม้ที่สมบูรณ์ธรรมชาติ ทิวทัศน์และลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง เช่น แม่น้ำสาละวิน มีเนื้อที่ประมาณ 450,950 ไร่ หรือ 721.52 ตารางกิโลเมตร 

กรมป่าไม้ได้พิจารณาเห็นว่า พื้นที่ป่าบริเวณลำน้ำสาละวิน (ตั้งแต่ใต้ห้วยแม่สามแลบไปจังหวัดแม่ฮ่องสอน) ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสาละวินและป่าแม่ยวมฝั่งขวา ในท้องที่อำเภอแม่สะเรียม และอำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสภาพป่าที่สมบูรณ์และสวยงามเหมาะที่จะประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นเพื่อให้ได้ทราบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมของ สภาพพื้นที่จึงให้ นายอัมพร ปานมงคล นักวิชาการป่าไม้ 4 ปฏิบัติงานประจำอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ ไปดำเนินการสำรวจเบื้องต้น ตามคำสั่งกรมป่าไม้ที่ 504/2532 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2532 สำรวจพื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง พื้นที่ที่สำรวจและเห็นควรจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยวมฝั่งขวาและป่าสาละวิน ในท้องที่ตำบลแม่ลาหลวง ตำบลแม่ลาน้อย ตำบลท่าผาปุ้บ อำเภอแม่ลาน้อย ตำบลแม่คง ตำบลบ้านกวด ตำบลแม่ยวม ตำบลสบเมย อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื้อที่ประมาณ 1,013 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 632,125 ไร่ เป็นอุทยานแห่งชาติ 





ลักษณะภูมิประเทศ 
พื้นที่อุทยานแห่งชาติสาละวิน (ลุ่มน้ำคง) เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน แนวเขาวางตัวในทิศเหนือ-ใต้ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาถนนธงชัย มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 200-1,027 เมตร ซึ่งยอดเขาที่สูงที่สุดอยู่ทางทิศเหนือของพื้นที่ มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำยวม แม่น้ำสาละวิน แม่น้ำกองคา แม่น้ำแม่แงะ และแม่น้ำหาร 

ลักษณะภูมิอากาศ
ภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติสาละวิน (ลุ่มน้ำคง) แบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาล คือ ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ 

พืชพันธุ์และสัตว์ป่า
มีสภาพป่าที่อุดมของป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง พันธุ์ไม้สำคัญที่พบมี สัก แดง ประดู่ ชิงชัน มะค่าโมง ตะเคียนหนู ตะเคียนทอง เต็ง รัง เหียง พลวง ฯลฯ 

สัตว์ป่าที่สำคัญมี สัตว์บก ได้แก่ เก้ง กวาง เลียงผา เสือ อีเห็น ชะมด นาก หมี เม่น อ้น กระรอก ลิง ค่าง ชะนี หมูป่า ค้างคาว และนกต่างๆ สัตว์เลื้อยคลาน ได้แก่ งูชนิดต่างๆ กิ้งก่า ตะกวด จิ้งเหลน เต่า ตะพาบน้ำ ฯลฯ สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ได้แก่ กบ เขียด อึ่งอ่าง ปาด ส่วนสัตว์น้ำที่อาศัยในแม่น้ำสาละวินมีปลา จำแนกป็น 2 ชนิด คือ ปลาเฉพาะถิ่น ได้แก่ ปลาแปบสาละวิน ปลาตะเพียนสาละวิน ปลารากกล้วยสาละวิน ปลาแขยงใบข้าว ปลาคม ปลากดคัง ปลาหมู ปลาแค้ ฯลฯ และปลาทั่วไป ได้แก่ ปลาสะตือ ปลาดุก ปลาสวายหนู ปลาดุกด้าน ปลาดุกอุย ฯลฯ

การเดินทาง
รถยนต์ 
เดินทางจากอำเภอแม่สะเรียงใช้เส้นทางตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1194 ระยะประมาณ 4 กิโลเมตร แล้วเข้าทางแยกขวามือไปตามทางอีก 4 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ หากต้องการเดินทางต่อไปที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สว.4 (บ้านแม่สามแลบ) ต้องเดินทางโดยรถยนต์ (ถนนลาดยาง) อีกประมาณ 50 กิโลเมตร 

จากบ้านแม่สามแลบ หากต้องการเดินทางต่อไปที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สว.1 (บ้านท่าตาฝั่ง) สามารถเดินทางได้ทางเรือโดยสาร เรือออกจากท่าเรือบ้านสามแลบ ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. (ค่าโดยสาร 1,000 บาทต่อผู้โดยสาร 10 คน : ข้อมูลเดือนตุลาคม 2549) ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ (บ้านท่าตาฝั่ง) 

การเดินทางไปหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ สว.1 (บ้านท่าตาฝั่ง) สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้ เริ่มจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ (ถนนลูกรัง : ข้อมูลเดือนตุลาคม 2549) ระยะทางประมาณ 37 กิโลเมตร ควรใช้รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง เส้นทางนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย 


วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556

งานเลี้ยงที่เขาค้อเพชรบูรณ์

ผ่านไปแล้วงานเลี้ยงครั้งยิ่งใหญ่ เพราะมีทั้งสามสาขาของสัตวแพทย์๔๙ มารวมกัน ปีหน้าพบกันใหม่ที่ราชบุรี เอ้ย ไม่ใช่หมอวันชัยถูกตัดหน้าหมอแขก รับไปที่สระแก้ว เสียก่อน แล้วเราจะมาพบกันให้มากและยิ่งใหญ่กว่านี้









ติดตามภาพจากกล้องหมอจิวได้ที่นี่หวานชึ้งมากครับ
https://www.facebook.com/photo.php?v=1443546009199075&I=4952924175086630326


วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

สร้างพระที่แจ้ห่มร่วมกับท่าน ผอ กองการเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์




เมื่อวันที่ ๒๐เมษายน ๒๕๕๖  นายพนม มีศีริพันธุ์   ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ กรมปศุสัตว์ ได้มีจิตศรัทธาสร้างองค์พระพุทธรูปเพื่อถวาย ณ สำนักสงฆ์ บ้านสาแพะเหนือ หมู่ ๗ ตำบล บ้านสา อำเภอ แจ้ห่ม จังหวัด ลำปาง  ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ น. 

วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ภาพงานเลี้ยงบ้านไร่อุทัยธานี จากกล้องหมอแสงวรรณ์ครับผม

งานเลี้ยงสัตวแพทย์ ๔๙ ที่บ้านไร่ปีนี้ ตามที่สัญญาว่าจะขอแบ่งภาพกล้องหมอแสงวรรณ์ ลองดูอีกมุมมองจากแนวคิดหมอแสงวรรณ์ครับ คิดอย่างไรก็คอมเม้นท์มาได้เลยครับ

วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555

บรรยากาศงานเลี้ยงเย็นวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๕.

ปีนี้เพื่อนๆมากันมากเพราะมีเพื่อน๔๙กรุงเทพและขอนแก่นมาร่วมด้วย แต่ละคนหิ้วกล้องถ่ายรูปแพงๆมาถ่ายภาพบรรยากาสแห่งความสุขแบบเพื่อนพบเพื่อนกัน ส่วนผมพกกล้องปัญญาดีแอบกระมิดกระเมี้ยนออกมาถ่ายเป็นบางครั้งมีรูปมานำเสนอได้แค่นี้ครับ ..ถ้าได้แบ่งจากกล้องหมอแสงวรรณ์หรือท่านอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็จะนำไปโพสต์กันบนเฟรสบุคกันหมด โดยเฉพาะหมอต๋องมีแม่บ้านตากล้องแอบถ่ายไว้เยอะ...จะนำมาเพิ่มเติมอีกครั้งครับ

เชียงรายมีสัตวแพทย์ ๔๙ หลายคนนะ แต่ที่โชคดีได้ไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นคือเราสุพล ปานพาน และแสงวรรณ์ กันทะวงค์ ช่วงขากลับเป็นวันหยุดก็แวะเที่ยวรายทางที่พอจะเข้าไปได้ครับก็มีภาพเก็บตกมาฝากเพื่อนๆที่ต่างแยกย้ายกันไปตามเส้นทางเข้ากรุงเทพมั่ง แวะเข้าชัยนาทบ้าง ไม่เป็นไรนะครับปีหน้าว่ากันว่าจัดรวมใหญ่ที่เพชรบูรณ์  เพื่อนๆที่พลาดโอกาสครั้งนี้ ธันวาคมปีหน้าค่อยมาร่วมพบปะเสวนากันตามประสาคนแก่ได้ครับ  มีอะไรมาเล่ากัน  เพื่อนก็เป็นเพื่อนอยู่เสมอ ขอบคุณหมอเจริญและทีมงานที่จัดงานได้ดีมาก  ครับ

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

แจ้งข่าวเพื่อนๆ " สัตวแพทย์รุ่น 49 "

แจ้งข่าวเพื่อนๆ " สัตวแพทย์รุ่น 49 "
ด้วยคุณแม่ของหมอรังสิทธิ์ ศิริคำ ปศุสัตว์อำเภอแม่สะเรียง ได้ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 4 พ.ย.55 เจ้าภาพได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ วัดหนองช้างคืน ต.หนองช้างคืน อ.เมือง จ.ลำพูน ทุกคืนมีพระธรรมเทศนาและสวดพระอภิธรรม จะทำการฌาปณกิจศพในวันเสาร์ที่ 10 พ.ย.55
จึงแจ้งให้เพื่อนสัตวแพทย์รุ่น 49 และผู้ที่รู้จักได้รับทราบเพื่อร่วมงานโดยทั่วกัน

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

ข่าวจากเฟรชบุ๊คหมออดุลย์เจียงใหม่

ตัวแทนสัตวแพทย์รุ่น 49 รวมตัวเฉพาะกิจเลี้ยงส่งอาจารย์ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.55 ณ ร้านอิ่มปลาเผา ถนนเรียบคันคลองชลประทาน อ.เมืองเชียงใหม่
ใครเป็นตัวแทนดูเอาเองเน้อครับ ผมว่ามีฝรั่งมาหนึ่งคนนิ ดุไปดูมา..ถึงบางอ้อ...ท่านมานะ นั่นเอง..

พบเพื่อนเก่า

หมอช่วย คุณนายเรวดี หมอน้อย

ฝากประชาสัมพันธ์เวบบูชาพระเผื่อเพื่อนๆที่เป็นเซียนพระจะมีรายได้เพิ่มครับ คริ คริ

พรเทพขุนแผน เร็วแรงทั้งงานเงินความรัก

วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เล็กๆในวันแม่ปี ๒๕๕๕


มีโอกาสได้เข้าร่วมเป็นกรรมการตัดสิน แม่สาวลูกสวย  ของกลุ่มสตรีอำเภอเวียงเชียงรุ้ง ตอนแรกก็ธรรมดาไม่มีอะไร แต่ตอนมีการสัมภาษณ์ลูกว่ามีของขวัญอะไรให้แม่ในวันแม่ ทั้งหมดมี ห้าคู่ แต่ละคู่ก็ตอบแบบเขินๆไม่มีอะไร พอมาถึงแม่ลูกคู่ที่สี่น้องก็พูดไปแบบตั้งใจมีเสียงสั่น ประมาณว่าไปเรียนไกลไม่ค่อยได้พบกันวันนี้ก็ขอแสดงความกตัญญูด้วยการกราบเท้าแม่ แล้วน้องเขาก็นังพับเพียบลงกราบทำเอาในที่ประชุมผู้ดูต่างมีเสียง..อือ..ผู้เขียนเองน้ำตามันมาจากไหนก็ไม่รู้ไหลออกมาก็เลยขอกระดาษเช็ด พอบรรดาโต๊ะอื่นเห็นเราน้ำตาไหลพากันขำ หัวเราะ ตากล้องมือไวเอากล้องมากดชัตเตอร์เลยมีรูปหน้าแดงมาให้ชมกัน ทำไงได้ก็มันตื้นตันนี่นา 555

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ผลงานในหน้าที่ราชการของเพื่อนๆ

ชายน้อยมาก่อนแต่ประเสริฐกับบุญชูประกบดีกว่า ฮ่าๆๆ
ผมมารอถ่ายรูป เกษตรกรดีเด่นระดับชาติรับโล่รางวัลจากอธิบดีครับ
ผมพาเกษตรกรมาโชว์สินค้าอินทรีย์ มาถ่ายรูปคู่อธิบดีด้วยครับ
ผมมาอำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้ท่านอธิบดีอย่างไกล้ชิด(หลัง)ครับ


ท่านปอศอจอเมืองสามหมอกยิ้มหน้าบานเห็นฟันขาวครับ

วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อยากให้เพื่อนๆได้อ่าน

ผลงานการเขียนความในใจหลังลาออกจากราชการของอาจารย์อัมพวัน หมอปุ้ย ที่เคยสอนพวกเราชาวสัตวแพทย์49 เชียงใหม่ คลิกที่นี่ครับ http://www.dld.go.th/vrd_np/journal/55/J20-2.pdf  แล้วเลื่อนอ่านท้ายเล่มครับและนี่คือบางส่วนครับ


......ฉันได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ชีวิตหลังเกษียณฯกับญาติมิตรมากมายซึ่งล้วนแต่มี
ประโยชน์เพอนคนหนึ่งค้านหัวชนฝาเลยว่า อยาได้ ออกมาเด็ดขาดก็ เพราะสามีของเธอซึ่งเกษียณฯ ออกมาตามเกณฑ์เขา(สามี)สนใจการถ่ายภาพมาก มีความสุขกับการศึกษาและเล่นกล้องอย่างมาก ครั้น 2 ปีผ่านไป ก็พบว่า นอกจากจะหมดเงนกับอุปกรณ์ถ่ายรูป (ซึ่งช่วงนั้นยังเป็นกล้องรุ่นเก่า ไม่ใช่กล้องดิจิตอลแบบปัจจุบันนี้) จํานวนนาตกใจแล้ว ยังมสารพัดวัสดุกล้องที่จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้จะจัดการอย่างไรอีกกองพะเรอ เพื่อนอีกหลายคน เล่าถึงเพื่อนของเธอที่ลาออกมาแล้ว มีความสุขมากในช่วงปีแรก เพราะได้พักผ่อน ท่องเที่ยวไปในที่ที่อยากไป ได้ทําสิ่งที่อยากทํา แต่หลังจากนั้นราว 1-2 ปีก็เกิดอาการซึมเศร้า เหงา ไม่มีกิจกรรมที่อยากทําอีกแล้ว แต่ก็มีเรื่องตลก คือ เพื่อน 2 รายที่ท้วงติงฉันนั้นกลับออกจากงานก่อนฉันเฉยเลย และอีก 3 รายก็ลาออกตามฉันมาติด ๆ
       แต่ก็มีกรณีที่น่าเสียใจ เช่น บางรายป่วยหนักไปเสียก่อน และบางรายไม่มีโอกาสใช้เงินบํานาญทั้ง ๆ ที่ ได้รับอนุมัติใหเกษียณอายุ ราชการก่อนกำหนดแล้ว  
       เมื่อมาลองวิเคราะห์ดูแล้ว ฉันคิดว่าปกติแล้วคนเราจะอยู่เฉยไม่ได้ต้องทํากิจกรรมบ้าง กิจกรรมส่วน
ใหญ่ (ที่ถูกกฎหมาย) ล้วนก่อประโยชน์มากน้อยแล้วแต่มุมมอง หญิงไทยส่วนใหญ่ถูกสอนให้ทํางานบ้าน เช่น  ดูแล-ทําความสะอาดบ้าน เครื่องใช้-เครื่องเรือน เป็นธุระจัดหาข้าวปลา-อาหาร แต่ธรรมชาติชายไทยมีส่วน ร่วมในเรื่องเหล่านี้น้อย ดังนั้น ในความเห็นส่วนตัวของฉันแล้ว ผู้เกษียณฯ หญิงดูมีความสุข เพราะหมดภาระ งานในหนาท้ ประจำลงอย่างสิ้นเชิง เหลืองานบ้านให้ทําพอเพลิน ๆ  สําหรับตัวฉันเองนั้นก็ถือโอกาสไปเรียนตัด เย็บเสื้อผ้าที่วิทยาลัยสารพัดช่างลําปาง ซึ่งอยากทํามานานแล้ว ค่าใช้จ่ายเพียงชั่วโมงละ 1 บาท เรียน 150 ชั่วโมง (จันทร์-ศุกร์วันละ 3 ชั่วโมง) บวกค่าธรรมเนียมอีก 20 บาท รวมเป็น 170 บาท ถึงตอนนี้ฉันก็ สามารถตัดเย็บชุดราตรี (ชุดที่ใส่ยามราตรี = ชุดนอน) เสื้อใส่อยู่บ้านง่าย ๆ (น้อง ๆ เสื้อโหล) แก้ไข ดัดแปลง และซ่อมแซมเสื้อผ้าสําหรับตัวเองและญาติมิตร (ที่ปลงตกและทนฝีมือฉันได้)......


เพื่อนๆที่ออรอล เอ้ย เออรี่ไปแล้วอยากจะเล่าอะไรก็คอมเม้นมาได้นะตอนท้ายบทความครับ