วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ภาพชวนคิดติดตาม

lสิ่งธรรมดาๆที่เกิดขึ้นทั่วไป ขอแค่เพื่อนๆพอใจ ยอมรับ หยิบยื่นสิ่งดีๆให้กับชาวบ้าน เราถนัดอะไรก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุดนะครับ
ชีวิตคือการเดินทางมิว่างเว้น ละครเต้นตามวิถีมีสูงต่ำ
บทบาทอาจเศร้าสุขทุกข์ลำนำ อยู่ที่กรรมเสกสรรบันดาลดล
ภาพมันเก่าจริงๆค้นเจอวันนี้ โลกมันก็หมุนเวียนเปลี่ยนไป จากให้อิสระสำนักงานปศุสัตว์เปิดรักษาสัตว์ ถึงขั้นมีรัฐมนตรี เกษตรสมัยนั้นมาเปิดป้ายโรงพยาบาลสัตว์รักษา แต่พอผ่านไปอีกไม่กี่ปีเปลี่ยนนโยบายใหม่ไม่ให้มีการรักษา ให้การรักษาไปอยู่ที่คลินิครักษาสัตว์ แล้วไม่นานก็ยุบอำเภอทำเอาเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เดือดร้อนอยู่กันไปเลี้ยงกันไปตามยถากรรม ตอนเริ่มยุบเสร็จสัญญาเป็นสายัญว่าจะให้ตำแหน่ง ซีแปดว่าไปโน่น สุดท้ายก็กลับมาให้มีสำนักงานปศุสัตว์อำเภออีก วนเวียนอยู่อย่าง จะเห็นว่ากรมเรานี่เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ ๒๐ กว่าปีมาแล้ว ถึงได้ตามนโยบายคนอื่นไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรใหม่ ปราบFMDปัจจุบันก็ทำกันต่อไป อิอิ บ่นจังเรา
ดูสิครับคุณเป็นใครและอยู่ตรงไหน และอะไรเกิดกับโลกกรมๆปศุสัตว์?.....อนิจจังไม่เที่ยง.....

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

The Sound Of Silence


The Sound of Silence - Simon & Garfunkel


สวัสดีความมืดเพื่อนเก่า
เรามาทักทายกันอีกหน
ภาพฝันคืบคลานมาอย่างแยบยล
เมล็ดพันธุ์ฝันหล่นฝังในจินตนาการ

ยังคงอยู่อย่างนั้น
เสียงแห่งความเงียบงันยังขับขาน
เดินลำพังในฝันอันเนิ่นนาน
ผ่านถนนแคบแอบแสงสลัวจากเสาไฟ

ห่อห่มตัวหนีห่างความหนาวชื้น
ยืนตะลึงจากแสงวาบสว่างไสว
แยกคืนและคั่นวันออกไป
และนั่นไงสัมผัสเสียงอันเงียบงัน

ผู้คนมากมายภายใต้แสงอันว่างเปล่า
ได้ยินคำบอกเล่าโดยไม่หัน
เสวนาโดยไร้คำพร่ำรำพัน
ไม่ปันเสียงประพันธ์เพลงบรรเลงใจ

ไม่มีใครกล้าส่งเสียงผ่านเสียงเพรียก
ฉันกู่ก้องร้องเรียก “ผู้ไม่รู้อะไร จะโง่ไปถึงไหน
ความเงียบงันดั่งมะเร็งกำเริบเติบโตไป
จับมือฉันไว้ ตั้งใจฟัง อาจสอนคน”

คำฉันคล้ายสายฝนหล่นเพียงแผ่ว
ดั่งเสียงแก้วหล่นร่วงจากเวหน
สะท้อนเสียงก้องกังวานผ่านเวียนวน
ไม่ผ่านพ้นห้องแห่งเสียงอันเงียบงัน

ผู้คนก้มลงกราบกล่าวภาวนา
ต่อหน้าพระเจ้าเขาสร้างฝัน
วาบแห่งแสงสัญลักษณ์จักเตือนกัน
คำแห่งความหมายนั้นหาได้จากที่ใด

ความรัักความหมายนั้นหาได้ในทุกที่
ขอแค่มีดวงใจที่เปิดไว้
บนท้องถนนหรือในห้องมองออกไป
มีอยู่ในเสียงกระซิบเพลงบทแผ่วอันเงียบงัน

.........................................

เพลงนี้ตอนแรกอยู่ในอัลบั้มเปิดตัว
ของ Simon และ Garfunkel
แต่ตอนนั้นขายได้แค่สองพันแผ่นเท่านั้น
ทั้งสองคนก็แยกย้ายกัน
หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จ

แต่ค่ายเพลงของพวกเขาเอาเพลงนี้มาืำทำใหม่
โดยใ่ส่เสียงเครื่องดนตรีเข้าไปมากขึ้น
ทำให้เพลงนี้กลับมาฮิตอย่างรวดเร็ว
Simon และ Garfunkel กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
และมีชื่อเสียงโ่ด่งดังไปทั่วโลก
ด้วยท่วงทำนองและความหมายในบทเพลง
ในหลายๆ เพลงที่พวกเขาแต่งและร้อง
อย่างเพลง Sound of the silence ก็เช่นกัน
เราสามารถแปลความหมายออกไปได้หลากหลาย
มีการตีความออกไปได้หลายๆ แบบ

นี่ก็เป็นเพลงที่ตูชอบที่สุดเพลงนึง
เพราะรู้สึกว่ามันมีความหมายลึกซึ้งซ่อนอยู่ในเสียงเพลง
ก็ขอให้มีความสุขกับเสียงเพลงด้วยกันนะครับ
แล้วท่านนี้ใครเอ่ยจำกันได้ไหม?


วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันนี้ คุณทอน...ให้แม่รึยังคะ?

ทอนเงินให้แม่รึยัง?
บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
เย็นวันหนึ่ง
เจ้าเด็กชายตัวน้อย วิ่งเข้าไปหาแม่ ส่งกระดาษให้แม่ใบหนึ่ง
หลังจากแม่เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน เธอก็คลี่กระดาษใบนั้นอ่าน...

ค่าตัดหญ้า 5 บาท
ค่าทำความสะอาดห้องนอนผม 5 บาท
ค่าซื้อของให้แม่ 5 บาท
ค่าดูแลน้องชาย 5 บาท
ค่าเอาขยะไปทิ้ง 4 บาท
ค่าได้ตะแนนสอบดี 10 บาท
ค่ากวาดสนาม 5 บาท

รวมค้างชำระ 39 บาท

พอแม่อ่านจบ ก็หยิงปากกาขึ้นมา พลิกไปด้านหลัง แล้วเขียน...

เก้าเดือนที่อุ้มท้อง ไม่คิดเงิน
เวลาแม่พยาบาลลูก และสวดมนต์ให้ลูกหายไวๆ ไม่คิดเงิน
ลูกทำให้แม่ เสียน้ำตา ไม่คิดเงิน
ของเล่น ขนม น้ำนม อาหาร เสื้อผ้า พาเที่ยว ไม่คิดเงิน
แม้แต่เช็ดน้ำมูกให้ลูก แม่ก็... ไม่คิดเงิน

เมื่อรวมทั้งหมด เป็นราคาเต็มของ "ความรัก" ที่แม่ให้ลูกได้เสมอจ้ะ...


เมื่อลูกชายได้อ่านสิ่งที่แม่เขียน น้ำตา หยดโต ก็ไหลออกมา
เขาสบตาแม่ แล้วพูดว่า "แม่ครับ ผมรักแม่ที่สุดในโลก จริงๆนะครับ"
จากนั้น เขาก็เอาปากกามาเขียนตัวหนังสือโตๆว่า

แม่จ่ายหมดแล้ว..แต่ลูกยังทอนให้ไม่หมด


วันนี้ คุณทอน...ให้แม่รึยังคะ?

เมล์ดีดีจากหมอพงศพัค จิตชู อุตรดิตถ์