วันอังคารที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2553

ไปแล้วเพื่อนเราสุรพล บุญแปลง ไปสู่เส้นทางอิสระแห่งชีวิต

เพื่อนเราสุรพล บุญแปลง ที่มีฉายาที่เพื่อนๆล้อว่าสางเขียว ตัดสินใจเกษียณราชการก่อนกำหนดแล้วปีนี้ วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๓ ไปร่วมเลี้ยงแสดงความยินดีมุทิตาจิตกันที่เชียงใหม่ มีภาพมาฝากกัน เราลองกระชิบถามสุรพลแล้วว่าออกไปแล้วจะทำอะไร เพื่อนบอกว่าจะไปทำค้าขายของเล็กๆน้อยๆ ที่บ้านแฟนที่เชียงแสน เพื่อนๆไปแอ่วสามเหลี่ยมทองคำก็แวะหาได้นะครับเพื่อนๆเราแก่ไปมากครับแต่ก็ดูดีมีราศีสดใส บนแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
สุพล จำแลง ประเสริฐ สุรพล และประเดือนตามลำดับครับ เห็นนิ่มแว๊บๆๆไม่ทันกดชัตเตอร์
อดุลย์ ที่เป็นขาประจำเสียแล้วสำหรับโฆษก เสียงสำเนียง เมืองปนกลาง สร้างสรรบรรยากาศความเป็นกันเอง
บรรดาท่านที่เกษียรอายุดูเอาเอง มีท่านรองผีศิริวัฒน์ ท่านผอ.อิทธิพล พี่หมอตุ้ม เป็นต้น
ว่าที่ ปศจ.สองคนมาปะทะคารมกัน ดูสิว่าใครจะเป็น ปอศอจอก่อนกัน อิอิ ๕๕๕
ประเสริฐ สุกิจและสุทัศน์ นั่งชดน้ำเปล่า
สุทัศน์ สุกิจ น้องยวงศรี(ศูนย์ฯเหนือ) ถาวร สุพล และหมอนรงค์ชัย(ไช้) เอไอเอ เคยทำงานร่วมกันที่ศูนย์เหนือ
ประเสริฐเปิดห้องให้สุรพลนอน พักผ่อนก่อนงานเลี้ยงจะเริ่ม เอาแรงไว้ก่อน(..ไผนอนก่อนได้เป็นเมีย..5555)
โอ๋จักริน ก็มา ทอสอคนขับรถให้พี่ตุ้ม ปศจ.พะเยา
จ่าก็มาร่วมต้อนรับเพื่อนฝูง ตามประสาเจ้าของพื้นที่
จ่า เจริญกับสุกิจ ความจริงมีเพื่อนอีกเรามองหาได้ไม่ทั่ว เช่น หัวหน้าเด่น สัจจะ อัตตศิริ และท่านปศุสัตว์อำเภอสบเมยราชันย์ มณีธร ท่านปศุสัตว์อำเภอแม่สะเรียง รังสิทธิ ศิริคำ

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

ข้อคิดดีๆ FWmailจากartid yodkumleoให้เพื่อนๆครับ


ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา...
จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว
ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร
แค่บินไปให้ถึงฝัน เท่านั้นพอ

The point...

ชีวิตพอเพียงของมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก
:
วอร์เรน บัพเฟตต์ (Warren Buffet)

มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศลถึง 31 , 000 ล้านดอลล่าร์

(เป็นเงินไทยก็ราวๆ 1,000,000,000,000 อ่านว่า 1 ล้าน ล้านบาท โอ้แม่เจ้า)

ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา :


1)
เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!

2)
เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์

3)
เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา ที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม

4)
เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน

5)
เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก

6)
บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ

7)
เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ
กฎข้อ
1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย
กฎข้อ
2 อย่าลืมกฎข้อ 1

8 )
เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์

9)
บิล เกตส์ คนที่รวยที่ สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์

10)
วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน

11)
เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า :

ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง


มหาเศรษฐีหรือยาจก
กินข้าวแล้วก็อ่ม1มื้อ เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก
มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก
มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก
จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็ต้องตาย เหมือนกัน