วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บทความหลังเกษียนของอาจารย์อัมพวัน ตฤษณารมย์

เพื่อนหลายคนควยังจำได้อาจารย์ที่สอนเราตอนอยู่โรงเรียนสัตวแพทย์เชียงใหม่ (หายไปแล้ว) อาจารย์ผู้หญิงที่ทุมเทกับการเคี่ยวเข็ญสอนพวกเรา อย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยและรำคาญความเกเรของพวกเราตอนนี้ท่านเออรี่แล้วมีเรื่องเล่าลงในวารสารของศูนย์เหนือฯที่ทำงานท้ายสุดของท่าน เราเองก็เด็กเก่าศูนย์พอไปอ่านก็นำมาขยายต่อ..เผื่อเพื่อนๆจะได้อะไรดีๆบ้างนะครับ..หรือใครคิดถึงอาจารย์ก็ไปเยี่ยมทักทายท่านก็ได้ครับ..แต่ท่านพักที่ไหนเราไม่ทราบต้องถามเพื่อนๆที่เชียงใหม่แล้วละครับ

ร่วม 3 ปีแล้วที่ฉันได้ลาออกจากงานราชการตามโครงการเกษียณอายุราชการ
ก่อนกําหนด เมื่อพบคนรู้จักไม่ว่าจะเป็นญาติมิตรหรือผู้เคยร่วมงานมักถูกถามว่า..
ทําไมรีบลาออกก่อนเวลาตั้ง 5 ปี มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ออกมาทํา (งาน) อะไร
วันๆ ทําอะไรบ้าง เหงาไหม ถึงตอนนี้คิดว่าตัดสินใจถูกหรือผิด เป็นต้น
ฉันก็ตอบเท่าที่โอกาส เวลาและสิ่งแวดล้อมจะอํานวย หลายครั้งที่ฉันตอบได้ไม่จุใจ
จนกระทั่ง ฤดูลําไยเวียนมาอีกครั้งใน ปี 2554 นี้ อดีตผู้ร่วมงานได้นําลําไย
ที่อร่อยที่สุดมาเยี่ยมพร้อมกับความคิดจากอดีตผู้ร่วมงานท่านหนึ่งมาฝาก คือ ให้ฉันเล่าถึงชีวิตหลังเกษียณอายุ
ราชการให้ฟังหน่อย คงอยากเปรียบเทียบหรือใช้บริหารคนใกล้ตัว (ขอแซวหน่อย) พอทราบดังนี้ ฉันก็นึกสนุก
ตกปากรับคํา เมื่อบรรณาธิการข่าวสุขภาพสัตว์ภาคเหนือเห็นด้วย ฉันก็ขอลองดูสักครั้ง และขอให้ท่านได้ร่วม
ลอง .... อ่านเล่น ๆ ดู คงใช้เวลาไม่มากนัก
ก่อนจะตอบคําถามข้างต้น ขอย้อนความเล็กน้อย กล่าวคือ ฉันเคยขอเข้าโครงการเกษียณฯ มาครั้ง
หนึ่งเมื่อปี 2547 แต่ไม่ได้รับอนุมัติ ปี 2549 ฉันได้ขอลาออกแต่เพื่อนผู้หวังดีดึงไว้ (ยังนึกขอบคุณเพื่อนที่แสนดี
ท่านนั้นมาจนทุกวันนี้ เพราะจะเสียผลประโยชน์ด้าน กบข. เนื่องจากไม่มีโครงการเกษียณฯ ก่อนกําหนด
รองรับ) จนกระทั่ง ปี 2551 จึงประสบความสําเร็จในการขอเกษียณฯ ในโครงการดังกล่าว ปัจจุบันจึงมี
สถานภาพเป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับบํานาญด้วยเหตุที่ได้คิดจะเกษียณมาหลายปี ความคิดฉันจึงตกผลึก
และมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจนานมาก เมื่อแรกที่ฉันคิดจะขอเกษียณฯ พี่ของฉันแนะนําให้เขียนข้อดี-ข้อเสีย
ดูก่อนแล้ววิเคราะห์ว่ารับได้หรือเปล่า หากจะต้องเสียอะไรบางอย่างไป ฉันได้พบว่า 
(1) ถึงเวลาที่ดวงตาของฉันควรได้พักอย่างจริงจังเสียที เพราะมันประท้วงมาหลายครั้งแล้ว เริ่มจาก
น้ําหล่อเลี้ยงลูกตาแห้ง วุ้นในตาเริ่มเสื่อม จนสุดท้ายมีอาการค่อนข้างรุนแรง ต้องตรวจเช็คอย่างละเอียด (โชค
ดีที่ไม่มีปัญหาความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดและเบาหวาน เรื่องจึงยังไม่บานปลาย) แต่กระนั้นความดันลูกตา
ก็สูงติดขอบ ในช่วง 3 ปีหลัง งานของฉันเน้นการเข้าสู่ระบบมาตรฐาน (ISO 17025) ทั้งเขียน อ่าน พิมพ์ และ
ตรวจทาน เกิดอาการแพ้คอมพิวเตอร์รุนแรง จนบางวันมองจอไม่ได้เลย
(2) เมื่อเป็น ส.ว. (ผู้สูงวัย) ทําให้ต้องรับงานบริหารเพิ่มขึ้น โดยส่วนตัวแล้วเบื่อมาก เห็นควรพิจารณา
กําจัดความเครียดด้วยการลาออกดีกว่า
(3) สมองสั่งการช้าลง ทําให้การคิด การเคลื่อนไหว การพูด การตัดสินใจ ตลอดจนความกระตือรือร้น
ความอยากรู้-อยากลอง และประสิทธิภาพความจําลดลง อาจก่อความรําคาญให้ผู้ร่วมงานได้
(4)  แม้ฉันไม่อยู่ ทีมงานที่เหลือก็สามารถปฏิบัติงานได้ ไม่มีปัญหา ช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐได้
แม้จะบรรจุเจ้าหน้าที่เข้ามาใหม่
(5) ควรให้เวลากับตัวเองและญาติมิตร ที่ผ่านมา ทุกอย่างถูกจํากัดด้วยเวลาธุระส่วนตัวบางเรื่อง
จําเป็นต้องจบโดยสรุปไม่ได้ บางเรื่องถูกทําแบบให้พ้น ๆ ไป บางเรื่องยังไม่ได้จัดการ ฯลฯ การลาออกในวัยที่
ยังพอมีกําลังกาย-กําลังสมองคงจะดีกว่าทอดเวลาออกไป จะได้หยุดดูและพิจารณาตนเอง ทบทวนสิ่งที่ผ่านมา
วางแผนอนาคตที่เหลืออีกไม่มากนักและที่สําคัญ จะได้พักผ่อนและดูแลสุขภาพในบั้นปลายให้สามารถช่วย
ตัวเองได้นานเท่านาน
ส่วนข้อเสียที่ต้องรับเต็ม ๆ คือ รายรับที่หายไปประมาณครึ่งหนึ่ง ฉันก็คิดให้เป็นบวกเสียว่า ดีแค่ไหนที่
ได้เงินเดือนโดยไม่ได้ทํางาน ช่างโชคดีและควรพอใจเป็นอย่างยิ่ง กรณีนี้ เพื่อนคนหนึ่งบอกว่า เป็นข้าราชการนี้
ดีจังเลย เมื่อเกษียณไม่ทํางานก็ยังได้รับเงินเดือนอยู่ ฉันชี้แจงข้อเท็จจริงถึงข้อดีของการรับราชการว่า ที่ดีที่สุด
คือ งานราชการฝึกให้ข้าราชการประหยัดจนเป็นนิสัย เพราะเงินเดือนข้าราชการและงบประมาณของสํานักงาน
นั้นค่อนข้างจํากัดหากใช้โดยไม่ตรึกตรองให้ดี คงไม่พอใช้แน่ฉันทํางานราชการเต็มตัว วัน ๆ หมดไปอย่าง
รวดเร็ว จนคนแซวว่า ไม่มีเวลาใช้เงิน
ช่วงตัดสินใจก่อนยื่นเรื่องเข้าโครงการฯ ฉันก็ทดลองเกษียณฯ ก่อนเกษียณฯ จริง โดยลาพักผ่อน 10
วัน 2-3 วันแรก ฉันหยุดทุกสิ่ง พักผ่อนเต็มที่ วันที่ 4-6 รู้สึกรําคาญตัวเอง เซ็ง เบื่อ แต่พอ 3 วันสุดท้าย เริ่มมี
ทิศทางการดําเนินชีวิต จัดการตัวเองได้ค่อนข้างลงตัว รู้สึกดีขึ้น ๆ จนไม่อยากกลับไปทํางาน จนได้ผลสรุปว่า
ลาออกดีกว่าและแล้วก็เริ่มจดรายการที่อยากทําหลังเกษียณยาวเป็นหางว่าว แต่ขอสารภาพว่า จนบัดนี้ 3
ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก ยังทําได้ไม่กี่รายการ แถมเป็นรายการจิ๊บ ๆ หากมีโอกาสจะเล่าให้ฟังต่อ

ไม่มีความคิดเห็น: